ความเชื่อเกี่ยวกับการวาง “กระจก” ที่ควรทำตาม
หลายๆ ท่านเคยสงสัยและคิดกลัวเกี่ยวกับเงาของตนเองในกระจกมี่เราส่องกันอยู่ทุกวันกันบ้างมั้ยหล่ะครับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีเรื่องเล่าและความเชื่อเกี่ยวกับ “กระจก” มากมายเลยหล่ะครับ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ความเชื่อเกี่ยวกับการวาง “กระจก” ที่ควรทำตาม” ที่น่าสนใจกันสักหน่อยครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!!
ทำความรู้จัก “กระจก”
กระจก หมายถึงวัสดุที่ทำมาจากแก้ว ซึ่งมีองค์ประกอบหลักทางเคมีคือซิลิคอน ซึ่งสามารถหลอมและนำไปขึ้นรูปได้ เมื่อเย็นตัวแล้วมีลักษณะ โปร่งใส และเป็นของแข็งโดยไม่จับผลึก (มีค่าความหยัดตัวสูง) กระจกจึงสามารถแตกได้เหมือนแก้ว และมีความคมมากกว่าแก้วเมื่อแตกเพราะมีความบางในการผลิต
กรรมวิธีการผลิตกระจกจะเริ่มผลิตโดยการนำวัตถุดิบซึ่งได้แก่ ทรายแก้ว หินฟันม้า หินโดโลไมต์ เศษกระจก โซดาแอช หินปูน และโซเดียมซัลเฟตุมาผสมเข้าด้วยกันตามอัตราส่วนที่ได้กำหนดไว้ (ดูรูปที่ 13.1)แล้วนำส่วนผสมที่ได้นั้นไปใส่ในเตา ที่มีอุณหภูมิ 1,500 องศาเซลเซียส จนวัสดุต่าง ๆ เกิดการหลอมละลายจนได้น้ำแก้ว (เชื้อเพลิงได้แก่ น้ำมันเตาซึ่งใช้แทนถ่านหิน) หลังจากนั้น จะปรับอุณหภูมิของน้ำแก้วให้เหลือประมาณ 1,100 องศาเซลเซียสจนมีความหนืดพอเหมาะต่อการขึ้นรูปน้ำแก้ว จะถูกนำไป ผ่านกระบวนการที่ทำให้เป็นแผ่นโดยวิธีการปล่อยให้ไหลลงไปฟอร์มตัวเป็นแผ่นกระจก
แล้วกระจกเงาหล่ะ
กระจกเงา เป็นวัตถุที่มีความสามารถในการสะท้อนดีจนสามารถเห็นภาพสะท้อนของวัตถุได้ชัดเจน สาเหตุที่เราสามารถเห็นภาพในกระจกเงาได้ เนื่องจากแสงจากวัตถุไปตกกระทบกับกระจก แล้วสะท้อนกลับมาเข้าตา โดยกระจกเงาที่เห็นทั่วไปมักมีผิวที่เรียบแบนเสมอกัน สามารถสะท้อนภาพจากวัตถุได้เท่ากันหมด ภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็นภาพเสมือนคู่แฝดกับวัตถุนั้นๆ แต่ถ้าพื้นผิวของกระจกมีลักษณะไม่เรียบแบนระนาบ การสะท้อนของแสงจะไม่เสมอกันและภาพที่เกิดขึ้นก็จะมีลักษณะผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงไปด้วย
สำรวจความเชื่อเกี่ยวกับ “กระจกเงา”
“กระจกเงา” เป็นอุปกรณ์แต่งบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากใช้ส่องเพื่อดูรูปร่างหน้าตาและการแต่งกายตามปกติแล้ว ยังทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้น และหลายคนเชื่อถือในศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ว่ากระจกเงาจะสะท้อนสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากบ้านและสะท้อนสิ่งที่ดีเข้ามาในบ้านได้อีกด้วย โดยเราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ กระจกเงา 2 แบบ ที่มีความเชื่อแตกต่างกันไป
●กระจกเงาเว้า มีคุณสมบัติในการดึงพลังปราณชี่มากดทับ จะนิยมใช้ในกรณีที่บริเวณข้างเคียงมีตึกสูงใหญ่มากกว่าตัวบ้าน ตั้งตระหง่านอยู่ บ้านที่เข้าลักษณะดังกล่าวจะถูกพลังของตึกสูงใหญ่ข่มทับ ส่งผลให้บุคคลภายในบ้านเจ็บป่วย การงานและโชคลาภจะติดขัด วิธีใช้ให้นำกระจกเว้ามาติดที่ผนังดาดฟ้า หันหน้ากระจกไปทางตึกใหญ่ ภาพที่ปรากฏในกระจกเว้าจะเป็นภาพตึกสูงใหญ่ตีลังกา
●กระจกเงาเรียบ มีคุณสมบัติดึงดูดพลังปราณชี่รุ่งเรืองเข้ามาเก็บ จะนิยมใช้ในกรณีที่ต้องการดึงพลังปราณชี่รุ่งเรืองเข้ามาเก็บไว้ เช่นในตำแหน่งที่ต้องการน้ำ แล้วบังเอิญมีธารน้ำไหลเข้าบ้านก็ให้ติดกระจกเรียบในตำแหน่งที่ต้องการน้ำ แล้วดึงภาพธารน้ำเข้ามาไว้ในบ้าน เท่ากับว่าบ้านมีดาวน้ำเคลื่อนไหว เป็นการกระตุ้นโชคลาภ ควรระวังอย่าติดกระจกเรียบดึงพลังที่ไม่ดีเข้าบ้าน
ทำไมถึงไม่ให้วางกระจกเงาไว้ปลายเท้า?
หลักฮวงจุ้ยจะทำให้ชีวิตรักไม่ราบรื่น มีปัญหาติดๆขัดเป็นทางผ่านของสิ่งลี้ลับ แต่ในหลักของวิทยาศาสตร์และความเป็นจริงนั้นการวางกระจกเงาสะท้อนไว้ตรงปลายเตียง อาจทำให้เราตกใจตัวเองเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกได้นั่นเอง หรือสำหรับสสาวๆ บางท่านอาจจะไม่ได้คิดถึงเรื่องความเชื่อ แต่อาจจะตกใจหน้าตัวเองตอนตื่นกลางดึกก็ได้เช่นกันครับ 55+
และนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “ความเชื่อเกี่ยวกับการวาง “กระจก” ที่ควรทำตาม” ที่เราได้นำมากฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ที่น่าสนใจสำหรับทุกๆ ท่านไม่มากก็น้อยกันนะครับ